ปลาข้างลาย ข้างตะเภา ครืดคราด หรือ ออดแอด (Grunter,
Croaker)
วงศ์ :
Theraponidae
ชื่อวิทยาศาสตร์
:
เป็นปลาที่หากินบริเวณชายฝั่งทะเลย่านน้ำกร่อย
และบริเวณป่าชายเลน ลำตัวค่อนข้างสั้น ปากเล็ก
ลำตัวสีขาวเงิน และมีแถบดำพาดตามลำตัว 3 แถบ
ซึ่งแถบนั้นจะโค้งต่ำลงตอนกลาง
จะต่างจากอีกชนิดหนึ่งคือ T.theraps
ซึ่งจะมีแถบดำ 3 แถบเช่นกัน
แต่พาดยาวตรงตามแนวราบ
และก็มักจะพบปะปนอยู่ในกลุ่มเดียวกัน
ปลาในวงศ์นี้สามารถทำเสียงได้
ชาวประมงได้ยินเสียงจึงตั้งชื่อว่าครืดคราด หรือ
ออดแอด ปลามีนิสัยชอบกินพวกเนื้อสัตว์ ตัวยาวขนาด
15-20 ซม. ชาวบ้านก็จับมารับประทานได้แล้ว
มักนิยมรับประทานกันในหมู่บ้าน ในท้องถิ่น
ไม่สู้แพร่หลายเช่นปลากระบอกหรือปลากระพงขาว
|
|
ปลาตะกรับ กะทะ
หรือเสือดาว
Scatophagus
(L.) |
ปลาตะกรับ กะทะ หรือเสือดาว (Scat)
วงศ์ : Scatophagidae
ชื่อวิทยาศาสตร์ :
Scatophagus argus (L.)
เป็นปลาที่มีอาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเล
และย่านน้ำกร่อยในบริเวณป่าชายเลน
เป็นพวกที่ปรับตัวได้ดี สามารถนำมาเลี้ยงในน้ำจืดได้
เป็นปลาตู้สวยงาม ตั้งแต่ขนาดเล็กๆ ปลาโตขนาดประมาณ 10
ซม. ก็นำมาเป็นอาหาร
แต่ก็แพร่หลายซื้อขายภายในหมู่บ้านเป็นส่วนใหญ่
รูปร่างลำตัวเป็นรูปสี่เหลี่ยมแบนข้างมาก
เกล็ดเล็กละเอียด มีแต้มดำขนาดไม่เท่ากัน
เล็กบ้างใหญ่บ้างประทั้งตัว พื้นตั้วเป็นสีคล้ำ
มีสีเหลืองหรือนวลแซมบ้าง
|
|
ปลาดอกหมาก เกล็ดข้าวเม่า
(Silver biddy)
Gerres abbreviatus
(Bleeker) |
|
ปลาดอกหมาก เกล็ดข้าวเม่า (Silver
biddy)
วงศ์
: Leiognathidae
ชื่อวิทยาศาสตร์ :
Gerres abbreviatus
(Bleeker)
เป็นปลาวงศ์เดียวกับปลาแป้น
นักวิชาการบางท่านแยกออกไว้ต่างหาก และมีชื่อวงศ์ว่า
Gerridae
ปลาชอบหากินตามชายฝั่งทะเล
และย่านน้ำกร่อยบริเวณปากแม่น้ำลำคลองที่ติดต่อกับทะเล
รวมทั้งบริเวณป่าชายเลน มีรูปร่างลำตัวสั้นรูปรี
เกล็ดเป็นสีขาวเงิน ปากเล็กยืดหดได้ เป็นปลาฝูง
มีครีบหลัง ตอนหน้ายกสูงขึ้น และลาดลงมาทางด้านหลัง
ลำตัวมีจุดดำประเป็นแถวๆ กลายแถว ขนาดไม่โตนัก
ขนาดที่พบประมาณ 10-15 เซนติเมตร
|
|
ปลาตีน หรือ กระจัง
(Mud skipper) |
|
ปลาตี หรือ กระจัง (Mud
skipper)
วงศ์
: Periophthalmidae
ปลาวงศ์นี้มีอยู่หลายสกุล เช่น Boleophthalmus
, Scartelaos, Periophthalmus,
Periophthalmodon
เนื่องด้วยไม่สามารถนำมาศึกษาชนิดได้ว่าเป็นชนิดใดแน่
จึงขออธิบายในลักษณะทั่วๆ ไป
ปลาตีมักจะพบกระโดดอยู่บนพื้นหาดเลน
หรือเกาะอยู่ตามรากของพันธุ์ไม้ในย่านป่าชายเลน
และทั้งยังสามารถว่ายน้ำได้ มีลำตัวยาว
หัวมักจะโตและมีตาโตโปน
กระบอกตายกขึ้นเหนือระดับผิวหนัง ทำให้เห็นเด่นชัด
ลูกตาสามารถกลิ้งไปมาได้เพื่อรับน้ำในแอ่งเบ้าตาด้านล่าง
ทำให้ลูกตาชุ่มชื้นอยู่เสมอ
ด้านใต้ลำตัวมีครีบท้องซ้ายและขวามาเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวย
ใช้ช่วยในการเคลื่อนที่ให้การเกาะบนพื้นเลนหรือกิ่งไม้ได้ดี
ชาวบ้านบางท้องที่จะรับประทานปลาตีนนี้ด้วย
ในบางแห่งจะพบขนาดโตมาก ขนาดยาวกว่า 20 เซนติเมตร
ลำตัวมีสีคล้ำดำ กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม
อาจมีจุดประหรือเส้นแถบลายพาดได้
|
|
ปลาหมอเทศ
(Tilapia)
Tilapia mossambica
(Peters) |
|
ปลาหมอเทศ (Tilapia)
วงศ์ : Cichidae
ชื่อวิทยาศาสตร์ :
Tilapia mossambica
(Peters) (= Oreochromis mossambica )
เป็นปลาที่นำมาจากต่างประเทศ
ถิ่นอาศัยเดิมมาจากทวีปอาฟริกา
สามารถแพร่พันธุ์ได้ดีทั่วประเทศไทย
มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดี
อยู่ได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำกร่อย เลี้ยงง่าย โตเร็ว
วางไข่ได้ปีละ 3-4 ครั้ง แต่เป็นปลาไม่ค่อยมีราคา
จัดเป็นปลาเศรษฐกิจเช่นเดียวกับปลานิล
ซึ่งอยู่ในสกุลเดียวกัน คือ Tilapia
nilocica (L.)
จะพบอยู่ทั่วๆ ไปเช่นเดียวกัน
และชอบสภาวะที่อยู่ในลักษณะเดียวกัน
อาการเป็นพวกพืชน้ำ สาหร่าย พืชและสัตว์ที่เน่าเปื่อย
ลักษณะตัวปลาสั้น แบนข้าง สีลำตัวเป็นเทาปนดำ
ด้านข้างตัวมีสีน้ำตาลอ่อน ท้องสีจางออกเป็นสีครีม
ครีบหลังเป็นแผงยาวและตั้งสูง ครีบก้นยาว
ครีบหางกว้างปลายมน ขอบครีบสีชมพูอ่อน
ปลาเพศผู้จะมีขนาดใหญ่สีเข้ม
ส่วนเพศเมียจะเล็กกว่าและมีสีจางกว่า
ปลาหมอเทศจะดูต่างจากปลานิลคือ
จะไม่มีลายสีดำพาดบนครีบหลัง ครีบก้นและครีบหาง
ซึ่งลายนี้จะสลับด้วยจุดประสีขาวและหางจะกลมมน