สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เจ้าฟ้ามหาจักรี สิรินธร
ผู้ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท
 

     
ย้อนกลับ หน้าหลัก อ่านหน้าต่อ

  
     ในด้านของศิลปะ วัฒนธรรม และการอนุรักษ์มรดกดั้งเดิมของไทยนั้น  กล่าวได้ว่าพระองค์ทรงเป็นหลักและเป็นผู้นำในเรื่องดังกล่าว  ในสังคมไทยยุคปัจจุบันโดยแท้  จะไม่มีนักวิชาการ นักคิด นักเขียน นักประวัติศาสตร์ นักอนุรักษ์ฯ และศิลปิน ท่านใดปฏิเสธได้เลยว่าในยุคสมัยปัจจุบันนี้ งานทางด้านการส่งเสริม ศิลปะ วัฒนธรรม และการอนุรักษ์มรกดไทย ได้รับการสนับสนุนและตื่นตัวกันอย่างแพร่หลายและกว้างขวางอย่างยิ่ง  สาเหตุสำคัญนั้น ก็ต้องรับกันโดยไม่มีข้อโต้แย้งว่า  มีส่วนเนื่องมาจากการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์นี้ ได้ทรงเอาพระทัยใส่และดำเนินการในหลายเรื่อง ด้วยพระองค์เอง ทรงแสดงให้เห็นถึงคุณค่าความงาม ความอ่อนหวาน ความประณีต และความสำคัญของมรดกทางด้านศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไทยให้ประจักษ์ในสังคมไทย  อย่างที่ไม่เคยมีการตื่นตัวกันมาก่อนเลย ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

     งานสำคัญที่เห็นเด่นชัดงานหนึ่งในหลายงานที่ทรงดำเนินการ ซึ่งเห็นควรยกมาเป็นตัวอย่างได้แก่  ทรงเป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการบูรณปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม  และพระบรมมหาราชวัง  ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.2523  จนสำเร็จทันการสมโภชพระนคร ในโอกาสครบรอบ 200 ปี แห่งกรุงรัตนโกสินทร์  ผลปรากฎดีเยี่ยมจนเป็นที่ชื่นชมโสมนัสแก่พสกนิกรชาวไทยยิ่งนัก  นอกจากนั้น  ยังทรงเป็นองค์ประธานบูรณะบุษบกทรงของพระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากร ทรงอำนวยการบูรณะตกแต่งพระที่นั่งวิมานเมฆในพระราชวังดุสิต  เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงดูแลการบูรณะพระที่นั่งเวหาสน์จำรูญ  พระราชวังบางปะอิน  และทรงก่อตั้งพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

     จากผลงานที่ได้ทรงฟื้นฟูอนุรักษ์ ศิลปะ วัฒนธรรมไทยในด้านต่างๆ จนปวงชนชาวไทยได้ตระหนัก และหันกลับมานิยมและตื่นตัวในการรักษา หวงแหน และมีจิตสำนึกในด้านการอนุรักษ์มรดกของชาติดังกล่าว รัฐบาลจึงได้เห็นควรกำหนดให้วันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน ของทุกปี เป็นวัน " อนุรักษ์มรดกไทย " เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ