สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เจ้าฟ้ามหาจักรี สิรินธร
ผู้ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท
 

     
ย้อนกลับ หน้าหลัก อ่านหน้าต่อ

   
" เหตุที่ชอบการพัฒนาช่วยเหลือประชาชนนั้นเห็นจะเป็นเพราะความเคยชินตั้งแต่เกิดมาจำความได้ ก็เห็นทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระศรีนครินทราฯ บรมราชชนนี ทรงคิดหาวิธีการต่างๆ ที่จะยกฐานะความเป็นอยู่คนไทยให้ดีขึ้น...ได้ตามเสด็จฯไป ...เห็นความทุกข์ยากลำบากของพี่น้องเพื่อนร่วมชาติก็คิดว่าช่วยอะไรได้ควรช่วย  ไม่ควรนิ่งดูดาย  เมื่อโตขึ้นพอมีแรงทำอะไรก็ทำไปอย่างอัตโนมัติ โดยทำตามพระราชกระแส หรือทำตามแนวพระราชดำริ  การช่วยเหลือประชาชนเป็นหน้าที่ของสถาบันพระมหากษัตริย์  ต้องทำประจำอยู่แล้ว  อนึ่งการช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากนั้น  ก็สอดคล้องกับคำสอนในพุทธศาสนาด้วย  ผู้ที่ทำบุญย่อมได้รับความอิ่มอกอิ่มใจ คือได้บุญ "

     นอกจากนี้  ยังพระราชทาน ทัศนะในเรื่องการพัฒนาของพระองค์  ต่อไปอีกว่า...

    "อีกประการหนึ่ง ....รู้สึกอยู่เสมอว่าการเป็นเจ้าฟ้านั้น   ได้เปรียบผู้อื่นหลายอย่าง  คือ  ได้รับความสะดวก สบาย  ความเชื่อถือ  ความเอื้อเฟื้อจากผู้อื่น  ได้รับความรู้  ความร่วมมือนานัปการ  จะพูดจาติดต่อกับใครก็ง่าย  ถือเป็นผลประโยชน์ที่เกิดในตระกูลที่พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย  เคยทำคุณแก่บ้านเมือง  ผลดีก็ตกอยู่กับลูกหลานดังที่ได้กล่าวมา  ฉะนั้นจึงควรนำข้อได้เปรียบนี้มาทำประโยชน์แก่คนอื่น

      การออกไปพัฒนานั้น  เป็นเรื่องสนุกเป็นการท้าทายสติปัญญาว่าถ้ามีโจทย์ คือมีปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ก็ต้องพยายามหาข้อเฉลยคือ  วิธีแก้ปัญหา  การแก้ปัญหา ซึ่งบางครั้งกินเวลานานกว่าจะคิดออก การออกไปพัฒนานั้น ทำให้ได้ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาด้วย  นอกจากจะได้ความรู้ และประสบการณ์มากมายแล้ว ยังได้เห็นทิวทัศน์งดงาม  อย่างกับได้ไปดูภาพเขียนฝีมือจิตรกรชั้นเยี่ยมในหอศิลปะ "

     ข้างต้นนี้  คือคำตอบต่อคำถาม เกี่ยวกับความบันดาลใจในการทรงงานด้านการพัฒนา  จากพระราชกระแส ของสมเด็จพระเทพรัตนฯ ที่มีต่อเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน กปร.

    การอุทิศพระองค์  ทรงงานลำบากตรากตรำ  อย่างมิทรงเหน็ดเหนื่อย และกระทำมาอย่างต่อเนื่อง  ไม่ว่างานนั้นจะยากลำบากปานใด เนื่องจาก " การช่วยเหลือประชาชนเป็นหน้าที่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องทำประจำอยู่แล้ว " นั้น แสดงให้เห็นแจ้งชัดถึงการถ่อมพระองค์ที่มิได้ต้องการการสรรเสริญเยินยอ ยกย่อง ทั้งๆ ที่ประชาชนชาวไทยได้ประจักษ์แจ้งชัดกันทั้งประเทศว่า "น้ำพระทัย" ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ นั้นยิ่งยิ่งใหญ่ไพศาลเพียงใด  สิ่งนี้นับได้ว่าเป็นคุณลักษณะพิเศษที่เห็นเด่นชัด ในพระบุคคลิกลักษณะของพระองค์ ผู้ที่เคยได้เฝ้าถวายงาน หรือเฝ้าในโอกาสอื่นใด ทั้งผู้ใกล้ชิดและมิเคยใกล้ชิด จะได้พบความเรียบง่าย ไม่ถือพระองค์ มีพระปิยวาจาที่อ่อนหวานเป็นกันเอง และมีพระอารมณ์ขันแทรกอยู่เป็นเนืองนิจ  ทรงสนพระทัยในสรรพศาสตร์ และสามารถเรียนรู้ได้น่าอัศจรรย์ ทรงสนพระทัยในสรรพสิงรอบข้าง ทรงจำชื่อผู้คนต่างๆ และเรื่องราวที่เกี่ยวข้องได้มากมายน่าประหลาด และสามารถกล่าวถึงได้อย่างถูกต้องแม้เรื่องรายละเอียดเล็กน้อย ทำให้ผู้ที่ได้รับใช้ ถวายงาน มีความรู้สึกผ่อนคลาย  เกิดความภาคภูมิใจ และพร้อมที่จะทำงานถวายอย่างสุดชีวิต