สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เจ้าฟ้ามหาจักรี สิรินธร
ผู้ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท
 

     
ย้อนกลับ หน้าหลัก อ่านหน้าต่อ

   
     ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศเวียตนาม  ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 17-23 กุมภาพันธ์ 2536  ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง  ซึ่งไม่เคยปรากฎมาก่อนในประเทศเวียตนาม ที่บุคคลสำคัญหรือประมุขของต่างประเทศจะได้รับการต้อนรับอย่างล้นหลาม มืดฟ้ามัวดินเท่ากับที่ประชาชนชาวเวียตนามถวายการต้อนรับ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ซึ่งไม่ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินไป ณ ที่ใดก็ตามจะมีประชาชนชาวเวียตนามให้ความสนใจและติดตามเฝ้าแห่แหนรับเสด็จฯ เบียดเสียดกันมาเป็นประวัติการณ์  นั่นเป็นเพราะพระเกียรติคุณอันงดงามหมดจด ซึ่งกำจรกำจายไปไกลไม่เพียงแต่ขอบขัณฑสีมาเท่านั้น หากแต่ยังปรากฎไปในประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง  และอาณาประเทศในภูมิภาคอื่นๆทั่วโลกด้วย

     ทุกครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินไปในประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคยุโรป เอเซีย อเมริกา และที่อื่นๆ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะได้รับการถวายการต้อนรับอย่างอบอุ่น จริงใจ และพร้อมเพรียงจากมหาชนทั่วทุกมุมโลก เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฎขึ้นทุกคราวอย่างน่าชื่นชมยิ่ง

     สำหรับการเสด็จพระราชดำเนินเพื่อเยี่ยมเยียนประชาชน และทรงงานด้านการพัฒนาในประเทศนั้น  กล่าวได้เลยว่าเกือบไม่มีแห่งหนใดที่สมเด็จเจ้าฟ้านักพัฒนาองค์นี้จะไม่เคยย่างเหยียบไปท่ามกลางการเฝ้าถวายความจงรักภักดีอย่างเนืองแน่นของพสกนิกรชาวไทยไม่ว่าที่ใด เวลาใด และโอกาสใด

     หลายครั้งหลายคราในสภาพการณ์อันทุลักทุเล  และสภาพแวดล้อมอันไม่น่าเชื่อสายตาของผู้ที่พบเห็นว่าจะทรงปรากฎพระองค์อยู่ ณ ที่นั้น  แต่สมเด็จพระเทพรัตนฯ กลับปรากฎพระองค์อยู่เพื่อทรงปฎิบัติกพระราชภารกิจ  สอนงงานในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทั้งหมดก็เป็นไปเพื่อความอยู่ดีกินดี และความผาสุกแห่งมหาชนชาวสยามนั่นเอง..เมื่อเป็นเช่นนี้..จะห้ามมิให้ปวงชนชาวไทยรักใคร่และเทิดทูนพระผู้เป็นมิ่งขวัญของพสกนิกร องค์นี้ได้อย่างไรเล่า

     อะไรและสิ่งใด  เป็นแรงบันดาลพระทัยในการที่ได้ทรงอุทิศพระองค์ให้ทรงดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาทในการพัฒนาช่วยเหลือประชาชน อย่างทุ่มเทถึงเพียงนี้  หลายคนคงมีคำถามนี้ในหัวใจ

      ทรงมีพระราชดำรัส  ตอบคำถามนี้ว่า..