พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
หม่อมเจ้าหญิง
พูนพิศมัย
ดิศกุล
ทรงนิพนธ์ไว้ว่า
พระราชอัธยาศัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น
ทรงพอพระราชหฤทัยที่จะเสด็จฯ
ประทับอยู่ในที่เล็กๆ
และเงียบๆ
เช่นเดียวกับนักเขียนทั้งหลาย
แต่พระราชประสงค์นั้นมิได้เคยเป็นผลสำเร็จเลย
ทั้งนี้
เพราะเมื่อทรงพระราชภารกิจมากขึ้น
เจ้าหน้าที่ก็ย่อมจะต้องมากขึ้นตามเหตุ
อันทำให้ต้องขยายพระตำหนักออกไปเป็นพระราชวังทุกหนทุกแห่งเสมอมา
ถึงพุทธศักราช
2456
จึงทรงพระราชดำริหาที่เงียบและไกลจากสังคมใหม่
ก็ได้ที่ทุ่งนาริมถนนซังฮี้
ระหว่างพระราชวังสวนดุสิตกับวังพญาไท
เรียกว่า "ทุ่งส้มป่อย"
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้ทรงพระกรุณาให้ใช้เงินพระคลังข้างที่ซื้อไว้เป็นเนื้อที่
157,920 ตารางวา
แล้วโปรดเกล้าฯ
ให้เจ้าพระยายมราช
เสนาบดีกระทรวงนครบาล
จัดสร้างพระตำหนักขึ้นองค์หนึ่ง
เพื่อจะใช้เป็นที่รโหฐาน
คือเป็นที่สงัดสำหรับทรงพระราชนิพนธ์หนังสือ
ทั้งจะได้เป็นที่ซึ่งราชเสวกจะได้มีโอกาสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเป็นส่วนพระองค์และส่วนตัว
ไม่ใช่อย่างเสด็จออกท้องพระโรงเป็นการพิธี
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้เสด็จพระราชดำเนินในพระราชพิธีวางศิลาพระฤกษ์พระตำหนักนั้นเมื่อวันที่
30 พฤษภาคม 2456
ได้พระราชทานนามทุ่งส้มป่อยว่า
"สวนจิตรลดา"
และพระราชทานนามพระตำหนักว่า
"พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน"
บริเวณรอบพระตำหนักมีการขุดคูและทำกำแพงรั้วเหล็กโดยรอบ
มีประตู 4
ทิศ
พระราชทานชื่อตามเจ้าของสวนจิตรลดาและท้าวโลกบาล
คือ
ทิศตะวันออกชื่อ
พระอินทร์อยู่ชม
ทิศใต้ชื่อ
พระยมอยู่คุ้น
ทิศตะวันตกชื่อ
พระวรุณอยู่เจน
และทิศเหนือชื่อ
พระกุเวนอยู่เฝ้า
(ปัจจุบันเป็นทางเข้าออกได้เพียง
3 ทิศ
เว้นทิศตะวันออก)
มีสะพาน 2
สะพาน
มีประตูน้ำ
2 ประตู
และมีซุ้มทหารยาม
30 ซุ้ม
เมื่อพระตำหนักจิตรลดารโหฐานสร้างแล้วเสร็จ
โปรดเกล้าฯ
ให้มีงานพระราชพิธีราชคฤหมงคล
ในวันที่ 14
สิงหาคม
พุทธศักราช
2456
หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประทับเป็นครั้งคราว
ถึงเวลามีพระราชพิธีต่างๆ
ก็ได้กระทำการนั้นๆ
ในพระบรมมหาราชวัง
ต่อมาจึงโปรดเกล้าฯ
ให้สวนจิตรลดา
เป็นพระราชฐานอยู่ในเขตของพระราชวังดุสิตเมื่อเดือนเมษายน
พุทธศักราช
2468
แต่คงเรียกว่าสวนจิตรลดาตามเดิม
และในสมัยที่ยังจัดให้มีงานรื่นเริงฤดูหนาวอันเป็นงานรื่นเริงประจำปีสำหรับประชาชน
ก็โปรดเกล้าฯ
ให้ย้ายงานวัดเบญจมบพิตร
มาใช้อาณาบริเวณอันกว้างใหญ่ของสวนจิตรลดาเป็นสถานที่จัดงานแทน
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างสนามกอล์ฟหลวงสวนจิตรลดาขึ้นภายในบริเวณสวนจิตรลดา
สำหรับเสด็จพระราชดำเนินไปทรงออกพระกำลังกาย
พระองค์ท่านเคยเสด็จพระราชดำเนินประทับ
ณ
พระตำหนักจิตรลดารโหฐานหลายครั้ง
โดยครั้งหลังนั้นเป็นการประทับ
ก่อนเสด็จฯ
ไปรักษาพระองค์ที่ประเทศอังกฤษ
และสละราชสมบัติ
ในรัชสมับพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาออนันทมหิดล
ตอนหลายสมัยสงครามมหาเอเซียบูรพา
กองทัพบกเคยใช้บริเวณอันเงียบสงัดของสวนจิตรลดา
เป็นที่ฝึกเสรีไทยก่อนส่งออกไปปฏิบัติการ
ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โปรดที่จะทรงใช้พระตำหนักจิตรลดารโหฐานเป็นที่ประทับถาวร
จึงได้มีการก่อสร้างต่อเติมพระตำหนักหลายครั้ง
เพื่อให้เหมาะกับที่ประทับ
และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้จัดงานพระราชกุศลราชคฤหมงคลขึ้นที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
เมื่อวันที่
31 ตุลาคม
พุทธศักราช
2500
ต่อมาในปีพุทธศักราช
2501
ได้โปรดเกล้าฯให้สร้างโรงเรียน
เพื่อให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอและสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
ทรงศึกษาเล่าเรียนภายในบริเวณสวนจิตรลดาโรงเรียนหนึ่ง
เป็นโรงเรียนราษฎร์อย่างสมบูรณ์
ตามพระราชบัญญํติโรงเรียนราษฎร์
พระราชทานนามว่า
"โรงเรียนจิตรลดา"
พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้โอรสธิดาของพระบรมวงศานุวงศ์
บุตรธิดาของข้าราชการและข้าราชบริพารเข้าศึกษาในโรงเรียนจิตรลดานี้ด้วย
|