riam.jpg (4734 bytes)

แด่เธอ..ยอดหญิงของลูก

ถึงเวลาออกเรือนไม่เชือนแช

           แม่ออกเรือน (สมัยก่อนเค้าเรียกกันอย่างนั้น) เมื่อแม่มีอายุได้ 23 ปี ซึ่งก็นับว่าครองโสดค่อนข้างนานสำหรับสังคมยุคนั้น สมัยก่อนแถวตรอกจันทน์ช่วงใกล้ลอยกระทงน้ำจะท่วมทุกปี เพราะอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา และสมัยก่อนเค้ายังไม่ได้สร้างเขื่อนกั้น น้ำจึงเอ่อท้นมาตามคลองตามบ่อ เข้าท่วมบ้านเรือนกันจนเคยชิน  สายๆน้ำก็เริ่มเอ่อจนท่วมสูง ตกบ่ายก็ลดจนแห้ง เป็นอย่างนี้อยู่นานพอควร แม่เล่าว่าพอน้ำขึ้นพวกสาวๆก็เอาผ้าออกมาซักกันเป็นที่เอิกเริก สนุกสนาน เนื่องด้วยสมัยนั้นน้ำประปายังไม่มีองใช้น้ำบ่อ พอน้ำท่วมก็เป็นอันว่าไม่ต้องไปเหนื่อยหิ้วน้ำบ่อมาใช้ เพราะน้ำมันเจิ่งมาให้ใช้ถึงหัวบันไดบ้านเลย พ่อเห็นแม่ครั้งแรกก็ตอนนี้แหละ กำลังก้มหน้าก้มตาซักผ้าเหย็งๆ อาการปิ๊งก็เกิด แม่เล่าว่ามัวแต่ทำงานเพลินไม่รู้หรอกว่ามีหนุ่มมาแอบมอง เห็นแวบๆแค่ชายกางเกง หน้าตาเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ พ่อติดอกติดใจแม่ถึงกับรีบไปสอบหาข้อมูลว่าเป็นสาวเจ้าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร รักจริงหวังแต่ง พอได้จังหวะก็ส่งเถ้าแก่มาทาบทาม แม่เองก็อึ้ง แอบหาข้อมูลพ่ออยู่อย่างลับๆ ได้เห็นหน้าค่าตาทางรูปถ่ายก็ตัดสินใจยอมรับ เพราะพ่อก็หน้าตาคมคายไม่เบาเหมือนกัน พิธีวิวาห์จึงมีขึ้นต่อหลังจากนั้นต่อมาไม่นาน (ปูมหลังของพ่อนั้นมีคู่หมั้นหมายอยู่แล้วแบบผู้ใหญ่จัดแจงเหมือนกัน พอได้พบแม่พ่อเกิดเปลี่ยนใจกระทันหันผู้ใหญ่ก็จำต้องให้เป็นไปตามที่ปรารถนา ก็เรียกว่าทันสมัยดีเหมือนกัน)

 
แม่เข็นรถพาลูกเที่ยว ผู้เขียนถ่ายภาพพร้อมพ่อ-แม่ แม่ถ่ายภาพกับลูกห้าคน ลูกทั้งหกกับน้าๆ (ลูกยายเล็กยายรอง)


          แม่ออกเรือนโดยปลูกเรือนอยู่ในรั้วเดียวกับคุณยายเล็ก ยายรอง แม่บอกว่าพ่อเคยเป็นครูสอนหนังสือมาก่อนพบแม่ ช่วงที่พบแม่นั้นได้ลาออกมาทำงานเป็นพนักงานฝ่ายขายของห้างการาจี ซึ่งสมัยก่อนเป็นห้างใหญ่จำหน่ายผ้าอย่างดีจากต่างประเทศ ต่อมาพ่อก็ผันตัวเองมาเป็นฝ่ายขายของบริษัทขายรถยนต์อเมริกัน ซึ่งพ่อทำงานอยู่ตรงนี้นานที่สุดเห็นจะว่าได้  แม่เองก็ตั้งหน้าตั้งตาผลิตและเลี่ยงดูทายาทที่เกิดมาเบ็ดเสร็จรวมแล้ว 9 คนไม่ตกไม่หล่น  ทำไมแม่ถึงมีแรงเลี้ยงลูกได้มากมายขนาดนี้ ทั้งๆที่พ่อก็ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน แม่คนเดียวรับไหวได้อย่างไร ตอนลูกคนหัวปี ต่อด้วยคนที่สองและสามติดกันมานั้น ลำพังเงินเดือนพ่อก็พอรับไหว ต่อมาคนที่สี่ห้าหกเนี่ยสิ เริ่มต้องมองหาอะไรมาเสริมรายได้แล้ว จึงเป็นที่มาของอุตสาหกรรมในครัวเรือน ด้วยคุณยายเล็กมีฝีมือทำอาหาร ก็ออกความเห็นว่าแรงงานเรามีหลายคน ลงทุนทำน้ำพริกแกงขายกันก็คงมีรายได้เลี้ยงสมาชิกที่จะตามกันออกมาอีกเท่าไรก็ไม่ทราบได้สบายๆ เมื่อคิดการกันแล้วทุกคนก็ร่วมกันคนละไม้ละมือแบ่งงานกันทำจนกิจการน้าพริกแกงของคุณยายเล็กหัวเรือใหญ่ก็กระฉ่อนตั้งแต่ตรอกจันทน์ยันถนนตก ลามไปถึงตลาดพรานนกฝั่งธนฯนั่นเลยทีเดียว  ช่วงนี้แม่คงทั้งหนักทั้งเหนื่อยแรงเป็นกำลัง แต่เท่าที่จำความได้ (เพราะคนเขียนเป็นลำดับ 2) ลูกแม่ทุกคนเอี่ยมอ่อง แม่ไม่เคยใช้ของฟุ่มเฟือย แม่เป็นช่างตัดเย็บและเป็นคนช่างดัดแปลง เสื้อลูกๆทุกคนที่สวมใส่ฝีมือตัดเย็บของแม่ล้วนๆ แม้แต่เสื้อผ้านักเรียนแม่ก็ไม่เคยซื้อ เอาแบบมาตัดใส่ให้ลูกๆ เพื่อเป็นการประหยัดทรัพย์นั่นเอง และที่ออกจะเป็นเรื่องน่าขำแต่ก็เป็นเรื่องจริง คือแม่พยายามตัดเสื้อผ้าลูกสาวให้เหมือนเป็นคู่แฝด เพราะแม่มีลูกคนโตและรองเป็นหญิง มีชายขั้นกลางหนึ่งคน และมีอีกสองหญิงชายคั่นอีกหนึ่ง ดังนั้นแม่จะเหมือนมีลูกสาวคู่แฝดสองคู่ ซึ่งแต่คู่จะแต่งตัวเหมือนกันเปี๊ยบ นั่นเพราะต้องการประหยัดและแต่ก็ดูน่ารักดีเหมือนกัน