ภาวะกระดูกพรุนป้องกันได้อย่างไร ?
กระดูกพรุนเป็นภาวะที่สามารถป้องกันได้ การป้องกันทำได้ไม่ยาก
เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ตั้งแต่วันนี้เพื่อสุขภาพที่ดี
-
กินอาหารให้ครบหมู่อย่างสมดุล วิตามิน
เกลือแร่และสารอาหารที่จำเป็นเพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ
เลือกกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น
การดื่มนมตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยสูงอายุเพื่อสะสมแคลเซียมไว้อย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการกินเกลือ
เนื้อสัตว์ และฟอสฟอรัสมากเกินไป
-
งดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
บุหรี่จะมีผลต่อการสร้างฮอร์โมนเพศซึ่งควบคุมการสร้างกระดูก
- พยายามดื่มกาแฟน้อยๆ
เนื่องจากคาเฟอีนจะกระตุ้นให้ร่างกายขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะมากขึ้น
-
ออกกำลังกายชนิดแบกรับน้ำหนัก (Weight-bearing
exercise) อย่างสม่ำเสมอ เช่น วิ่งเหยาะๆ หรือเดิน
จะเป็นผลดีต่อกระดูกและกล้ามเนื้อ
-
ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์
หากจำเป็นต้องใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์
- พยายามทำกิจกรรมต่างๆ
อยู่เสมอ อย่าอยู่นิ่งๆ
ปัจจุบันการใช้ฮอร์โมนทดแทนเพื่อป้องกันกระดูกพรุนไม่เป็นที่แนะนำ
เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงของการใช้ฮอร์โมนเป็นเวลานาน
หากเกิดภาวะกระดูพรุนแล้ว จะรักษาอย่างไร ?
หากตรวจพบว่าเกิดกระดูกพรุนไปแล้วก็อย่าปล่อยไว้โดยไม่รักษา
ที่สำคัญคือควรป้องกันโอกาสที่จะกระดูกหักได้ เช่น ระวังหกล้ม
ไม่เดินในที่มืด ระวังการลื่นล้มในห้องน้ำ ไม่ยกของหนัก ไม่ปีนที่สูง
ไม่ก้มหยิบของจากพื้น เมื่อจะหยิบของให้ย่อเข่าลงและให้หลังตรงอยู่เสมอ
ทำกิจกรรมให้ช้าลง อุบัติเหตุมักเกิดขึ้นจากความเร่งรีบ
งดปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้กระดูกบางลง
พยายามออกกำลังกายที่มีการแบกรับน้ำหนัก เป็นต้น
การรักษาภาวะกระดูกพรุน
มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น
มียาหลายกลุ่มที่ใช้ในการรักษาภาวะกระดูกพรุนได้แก่
1. ยากลุ่ม
Bisphosphonates เช่น
Alendronate เป็นต้น
เป็นการรักษาภาวะกระดูกพรุนโดยไม่ใช้ฮอร์โมน
ยากลุ่มนี้มีกลไกลดการทำลายของเนื้อกระดูก
โดยยับยั้งเซลล์ที่ทำลายกระดูก
และช่วยให้เซลล์ที่สร้างกระดูกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ฮอร์โมนทดแทน (Hormone
Replacement Therapy,HRT)
มักใช้ควบคุมอาการที่เกิดจากการหมดประจำเดือนในหญิงวัยทอง
นอกจากนี้ยังสามารถลดการสลายตัวของกระดูก
จึงใช้ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนในหญิงวัยหมดประจำเดือนได้
แต่จากผลการศึกษา Women Health's Initiative Study
เมื่อเร็วๆ นี้พบว่า ผู้หญิงที่ใช้ฮอร์โมนทดแทน
มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข
และมีผลต่อการเกิดโรคหัวใจมากกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้ใช้
3. ยากลุ่ม
Selective Estrogen Receptor Modulation
จะช่วยลดการสลายตัวของกระดูก
และเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกในหญิงวัยหมดประจำเดือน
4.
ยากลุ่มวิตามินดีและสารประกอบที่เกี่ยวข้อง
จะช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมจากลำไส้
อย่างไรก็ตามการรักษาและการใช้ยาต่างๆ
ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การรับประทานแคลเซียมแต่เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ
เปรียบเสมือนกับมีตุ่มน้ำที่รั่วและน้ำในตุ่มมีปริมาณน้อย
การรับประทานแคลเซียมเพียงอย่างเดียวเหมือนกับการเปิดน้ำก๊อกเติมตุ่มที่ยังรั่วอยู่โดยไมอุดรูรั่ว
ซึ่งถ้ารูรั่วใหญ่ขึ้นก็จะทำให้น้ำหมดตุ่มได้
ยารักษาโรคกระดูกพรุนจะช่วยอุดรูรั่วไว้และการรับประทานแคลเซียมเสริมจะทำให้ปริมาณแคลเซียมในกระดูกของคุณเพิ่มขึ้น
|