พันนึกถึงเมื่อเขากราบหลวงปู่ครั้งสุดท้าย แล้วน้ำตาไหล
ท่านได้มรณภาพไปแล้วเมื่อปีกลาย
ท่านไม่ทราบหรอกว่าศิษย์หัวแก้วหัวแหวนของท่านกลายเป็นผู้ร้าย...
" หลวงปู่ครับ
ยกโทษให้ผมเถอะครับ ถ้าผมพ้นโทษเมื่อไรผมจะบวช "
สายไปเสียแล้ว
เช้ามืดของวันหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เบิกตัวเขาไป รถจี๊บพากันผู้ยังไม่ทราบชะตากรรมของตนสู่เรือนจำบางขวาง
เมื่อไปถึงพันเริ่มกระสับกระส่าย เขาสังหรณ์ใจว่าคราวนี้เขาคงไม่รอดแน่
เมื่อพัสดีอ่านคำสั่งของหัวหน้าคณะปฏิวัติ
คำสั่งนั่นเป็นเสมือนมีดดาบที่มาตัดความหวังของเขาโดยสิ้นเชิง
เขาถูกสั่งประหาร
พันหยิบปากกามาเซ็นชื่อรับทราบอย่างเลื่อนลอย "ดีเหมือนกัน"
เขาคิด "จะได้จบสิ้นกันเสียที"
แต่แล้วเมื่อเขาคิดไปถึงนรก... เขาประพฤติเช่นนี้ คงหนีนรกไม่พ้นดอก
เอ๊ะ นรกมีจริงหรือไม่หนอ
ถ้ามีจริงคงเหมือนภาพที่ข้างฝาผนังพระอุโบสถที่เขาเคยไปดูเมื่อเล็กๆ
คิดแล้วขนลุก
พันปลงตกเสียแล้ว
ทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่เขามี เขาทำพินัยกรรมยกให้น้องชายคนโต
เพราะแม่เมื่อทราบข่าวชะตากรรมของบุตรชายก็ร้องไห้จนเป็นลม
แล้วกลายเป็นเหมือนเครื่องจักรกลสุดแล้วแต่ใครจะบอกให้ทำอย่างไร
หลังจากนั้นพันขอเขียนจดหมายสองฉบับ ฉบับหนึ่งถึงแม่
"
แม่จ๋า
ฉันผิดไปแล้ว
ขอให้แม่ยกโทษให้ด้วย ฉันตายแล้วขอให้แม่ทำบุญให้ด้วย...
อีกฉบับถึงน้อง ๆ
"
ฉันผิดไปแล้ว แกอย่าเอาอย่างฉันเลย
ต่อไปเมื่อแกโตขึ้นขอให้ยึดอาชีพสุจริต อาชีพทุจริตแม้จะได้เงินมาก
ก็ไม่ดีหรอก ฉันรู้นี่มันก็สายเสียแล้ว จึงต้องไปชดใช้กรรมที่ได้ทำไว้
ขอให้พวกแกเชื่อฟังอยู่ในโอวาทแม่ ฝากแม่ด้วยนะ..."
ภาพต่างๆ
ในความคิดของพันเริ่มเลือนหายไป
เสียงท่านผู้ทรงศีลปลุกเขาจากภวังค์
"
บุคคลย่อมเป็นทายาทของกรรมที่ตนได้ก่อขึ้น "
พันก้มกราบพระภิกษุผู้แสดงธรรม
ประเคนผ้าไตรจีวรพร้อมทั้งเงินสามร้อยบาทที่มีอยู่ถวาย
น้ำตาของผู้สำนึกผิดไหลลงต้องซองกระดาษสีขาว สายไปเสียแล้ว
เขาหมดโอกาสที่จะกลับตัวอีกแล้ว
เจ้าหน้าที่นำใบสละดวงตาไปให้เขาเซ็น
เขารับมาพร้อมทั้งรีบเซ็นชื่อทันที
เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้ทำบุญ
ดวงตาของเขาทั้งคู่จะทำให้ผู้อื่นได้มีโอกาสได้เห็น
เป็นประโยชน์ต่อไป ในขณะที่เขาจะไม่มีวาสนาใช้มันอีก
พนักงานนำอาหารมื้อสุดท้ายมาให้เขา
อาหารเหล่านั้นบางอย่างเป็นของที่เขาเคยชอบ เมื่อเวลากลับบ้าน
แม่เคยกุลีกุจอคอยจัดแจงทำไว้ให้ ขณะนี้เขารู้สึกอิ่มตื้อ จึงขอปฏิเสธ
ไม่รับประทาน ผู้คุมพาพันเข้าสู่แดนประหาร..."
เสียงปืนกล "แบล็กมันน์"
ที่พ่นกระสุนเจาะร่าง พันเงียบเสียงไปนานแล้ว
เจ้าพนักงานแต่ละฝ่ายต่างก็สาละวนอยู่กับการทำงานตามหน้าที่ของตน
ส่วนพันหมดหน้าที่ของเขาบนโลกนี้เสียแล้ว วิญญาณของเขาจะไปชดใช้ผลกรรม
ณ ที่ใดไม่มีใครทราบ แน่ละ
ผู้กระทำบาปอย่อมได้รับผลบาปที่ตนก่อไว้
แต่สำหรับผู้ที่รู้สำนึกผิดอย่างพัน บาปจะลดหย่อนบ้างไหมหนอ
หรือมันสายไปเสียแล้ว
๓๐ ตุลาคม ๒๕๑๕ |