พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสเกี่ยวกับดนตรี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเข้าพระทัยอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับเรื่องดนตรี
และอิทธิพลของดนตรีที่มีต่อความคิดและจิตใจของมวลมนุษย์
ตลอดจนกระบวนการใช้เสียงดนตรีและบทเพลงในการสร้างสรรค์ความบันเทิง
รวมทั้งปลูกฝังแนวคิดที่ดีงาม
เช่น ความรักชาติบ้านเมือง
ความสามัคคีพร้อมเพรียง
ให้เกิดขึ้นในสังคมและหมู่คณะ
พร้อมทั้งตระหนักถึงอิทธิพลของดนตรีในทางลบ
ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชาติบ้านเมืองได้
พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสเกี่ยวกับดนตรีเป็นเสมือนสติเตือนใจแก่บรรดาเยาวชน
นักดนตรี
และมวลพสกนิกรทุกหมู่เหล่า
ให้มีความเข้าใจลึกซึ้งเรื่องดนตรีและอิทธิพลที่พึงมีต่อสังคม
หมู่คณะ และประเทศชาติ
นอกเหนือไปจากความบันเทิงรื่นเริงใจและสาระประโยชน์ที่ได้จากเพลงหรือดนตรีโดยทั่วไป
ความสำคัญของศิลปะการดนตรี
ในกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ภายหลังที่สถาบันดนตรีและศิลปะแห่งกรุงเวียนนาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายประกาศนียบัตรเกียรติคุณชั้นสูง
ให้ทรงดำรงตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์หมายเลข
23 เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2507
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชดำรัสตอบเป็นภาษาเยอรมัน
( ต่อมา ม.ล.เดช สนิทวงศ์
ได้แปลและถ่ายทอดเป็นภาษาไทย)
ทรงกล่าวถึงความสำคัญของดนตรีว่า
"...ดนตรีทุกชนิดเป็นศิลปะที่สำคัญอย่างหนึ่ง
มนุษย์เกือบทั้งหมดชอบและรู้จักดนตรี
ตั้งแต่เยาว์วัยคนเริ่มรู้จักดนตรีบ้างแล้ว
ความรอบรู้ทางดนตรีอย่างกว้างขวางย่อมขึ้นกับเชาวน์
และสามารถในการแสดงของแต่ละคน
อาศัยเหตุนี้จึงกล่าวได้ว่า
ในระหว่างศิลปะนานาชนิด
ดนตรีเป็นศิลปะที่แพร่หลายกว่าศิลปะอื่นๆ
และมีความสำคัญในด้านการศึกษาของประชาชนทุกประเทศด้วย..."
จากหนังสือ
ณ สถิตในดวงใจนิรันดร์ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติโดยโรงเรียนจิตรลดา |