คำนำ I ประวัติความเป็นมา I ป่าชายเลนจังหวัดเพชรบุรี I พันธุ์ไม้ที่ปลูก I คุณภาพดิน I คุณภาพน้ำ I ชนิดของสัตว์ I สาหร่ายและหญ้าทะเล

 
  คุณภาพน้ำ :

        กระบวนการต่างๆ ทางฟิสิกส์และเคมีที่เกิดขึ้นบริเวณป่าชายเลน ตลอดจนคุณภาพของน้ำทะเลเป็นปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่สำคัญต่อระบบนิเวศน์ป่าชายเลน การขึ้นลงไหลเวียนของน้ำทะเลจะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนแร่ธาตุและสารอาหารระหว่างทะเล ชายฝั่งข้างเคียง และป่าชายเลน ทำให้น้ำทะเลในบริเวณป่าชายเลนมีช่วงความเค็มที่เหมาะสม (10 - 30 ppt)  สำหรับสิ่งมีชีวิต โดยความเค็มของน้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการเจริญเติบโต การอยู่รอด และการแบ่งเขตการขึ้นอยู่ของพันธุ์ไม้ ตลอดจนมีบทบาทสำคัญต่อชนิด ปริมาณ และการกระจายของสัตว์ในป่าชายเลนอีกด้วย นอกจากนี้การไหลเวียนระบายน้ำทะเลเข้าออกบริเวณป่าชายเลน ยังทำให้น้ำในบริเวณป่าชายเลนมีออกซิเจนละลายในปริมาณมากพอในการย่อยสลายอินทรีย์สาร ตลอดจนซากเศษใบไม้ที่ร่วงหล่น ทับถมกันอยู่ในบริเวณป่า ทำให้เกิดการหมุนเวียนของธาตุอาหาร และไม่เกิดสภาวะไร้ออกซิเจนจากการย่อยสลายสารอินทรีย์ขึ้น    

จุดเก็บตัวอย่างน้ำบริเวณสวนป่าทูลกระหม่อม

 

 

          จากการสำรวจเบื้องต้นเกี่ยวกับคุณภาพน้ำบริเวณสวนป่าชายเลนทูลกระหม่อม พบว่าคุณภาพน้ำทะเลบริเวณจุดสำรวจทั้ง 11 จุด มีคุณสมบัติเป็นด่างเล็กน้อยเช่นเดียวกับสภาวะน้ำทะเลปกติ โดยมีค่า pH ระหว่าง 7.5-8.5 ค่าออกซิเจนละลายที่ละลายน้ำโดยทั่วไปมีค่า > 3 ppm ซึ่งเพียงพอสำหรับการดำรงชีพของสัตว์น้ำ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากเครื่องเติมอากาศที่ติดตั้งอยู่ในบริเวณโครงการ 2-3 เครื่อง ซึ่งเป็นการช่วยรักษาระดับออกซิเจนละลายให้อยู่ในช่วงปกติได้ ความเค็มของน้ำอยู่ระหว่าง 2.1-6.8 ppt  ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของน้ำจืดจากฝน ทำให้น้ำมีความเค็มค่อนข้างต่ำ ประกอบกับการที่บริเวณปากคลองบางกราน้อยซึ่งควรเป็นส่วนที่ต่อเชื่อมกับทะเล เกิดมีทรายมากองทับถมกัน ปิดกั้นการระบายน้ำเข้าออกและการขึ้นลงของน้ำทะเล ทำให้น้ำทะเลจากข้างนอกมีความเค็มมากกว่า (จุดสำรวจ 4 ความเค็ม = 26 ppt)  ไม่สามารถไหลเข้ามาผสมกับน้ำจืดในบริเวณป่าปลูกได้ดังเช่นป่าชายเลนทั่วไป จึงทำให้น้ำมีความเค็มต่ำกว่าระดับความเค็มปกติที่พบในป่าชายเลนธรรมชาติทั่วไปและเป็นที่คาดคะเนว่าในช่วงฤดูแล้ง เมื่อปริมาณน้ำจืดจากฝนไม่มีหรือมีน้อยมาก  น้ำทะเลในป่าชายเลนนี้น่าจะมีความเค็มสูงมากกว่าปกติด้วย เนื่องมาจากผลของการระเหยของน้ำออกไป และไม่มีน้ำทะเลภายนอกเข้ามาเจือจางน้ำที่ขังอยู่ภายในบริเวณป่า สภาพที่ผิดปกติดังกล่าวอาจมีผลต่อการเจริญเติบโตของพันธุ์ไม้บางชนิดที่ปลูกในบริเวณสวนป่าชายเลนพื้นที่แห่งนี้ได้

 

        

 คุณวิวัฒน์ ศัลยกำธร อธิกายเกี่ยวกับระบบทางน้ำ
บริเวณสวนป่าชายเลนทูลกระหม่อม
 

คณะผู้วิจัยคุณภาพน้ำ เก็บตัวอย่างน้ำในพื้นที่ปลูกต้นจาก วัดคุณภาพน้ำทางเคมีในสนาม 

 

          สำหรับปริมาณธาตุอาหารหลักๆ เข่น โซเดียม (Na) โปแตสเซียม (K) แคลเซียม (Ca) แมกเนเซียม (Mg) เหล็ก (Fe) และแมงกานีส (Mn) ซึ่งปกติมีค่ามากเกินพอในน้ำทะเลทั่วไป พบว่ามีธาตุอาหารหลักเหล่านี้ในน้ำบริเวณสวนป่าชายเลนในปริมาณมากพอเช่นเดียวกับน้ำทะเลทั่วไป (ตารางที่ 2)  ส่วนธาตุอาหารที่เป็นปัจจัยจำกัดการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งมักพบในปริมาณต่ำ (ค่าเป็น µ M) คือไนโตรเจนและฟอสฟอรัส โดยไนโตรเจนพบอยู่ในรูปของแอมโมเนีมอิออนเป็นส่วนใหญ่ ส่วนไนเตรทและไนไตรท์จะพบในปริมาณที่น้อยกว่า อัตราส่วนของไนโตรเจนต่อฟอสฟอรัส (molar ratio) ของน้ำบริเวณจุดสำรวจโดยทั่วไปมีค่าระหว่าง 1-7 ซึ่งต่ำกว่าค่าที่ควรเป็นมาก (N : P = 16 สำหรับแพลงตอนพืช และ N : P = 30 สำหรับพืชชั้นสูง) ยกเว้นที่จุดสำรวจที่ 10 (ป่าจาก ซึ่ง N : P = 55)   และจุดที่ 11 (น้ำในท่อ ที่เติมปุ๋ย N : P = 264)  แสดงให้เห็นว่าน้ำทะเลในปริมาณสวนป่าชายเลนนี้ ค่อนข้างขาดแคลนสารอาหารไนโตรเจน ดังนั้นการทดลองเติมปุ๋ยไนโตรเจนลงในแปลงทดลองจึงเป็นแนวคิดที่ถูกต้อง หากแต่ว่าต้องหาวิธีการที่เหมาะสมในการเติมสารอาหารเพื่อให้พืชสามารถนำไปใช้ได้ตามต้องการ

 

 
...................  
ที่มาของข้อมูล : หนังสือสวนป่าชายเลนทูลกระหม่อม (เล่ม 1 การศึกษาวิจัยเบื้องต้น)จัดทำโดย สำนักงาน กปร.  

 

ชมรมนักชีววิทยา อพ.สธ.  สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ. สวนจิตรลดา เขตดุสิต กทม.
โทร. 02-2821850, 02-2820665  หรือ  Email :
bio_club@rspg.org