|
|
|
|
ต้นไม้โกงกางใบใหญ่ที่ทูลกระหม่อมทรงปลูก
มีลักษณะสมบูรณ์ บางต้นกำลังออกรากอากาศ |
|
|
การบำรุงรักษาของต้นไม้ที่ปลูกเป็นสิ่งจะเป็นอย่างมากหลังการปลูกเนื่องจากอาจจะมีแมลงกินใบ
ซึ่งจะต้องกำจัดและเก็บทิ้งให้หมด การกำจัดวัชพืชชนิดต่างๆ
ที่ขึ้นอยู่ในสวนป่าชายเลน ที่ปลูกเพื่อลดการแก่งแย่ง
วัชพืชที่สำคัญและพบปริมาณมาก ได้แก่ ปรงทะเล (Acrostichum
spp. )
เหงือกปลาหมอ (Acanthus spp.
) และเถาชนิดต่างๆ
เช่น เถาถอบแถบ (Derris trifoliata
)
และเถากระเพาะปลา (Finlaysonia maritima
) เป็นต้น
สวนป่าชายเลนศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ได้ทรงปลูกป่าชายเลนบริเวณคลองลางกราน้อย
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน โดยได้ทรงปลูกไม้โกงกางใบใหญ่ (Rhizophora
mucrotana )
ไว้ประมาณ 1 ไร่ จำนวน 202 ต้น นออกจากนั้น ว่าที่
ร.ต.อารี สุวรรณจินดา
ได้ปลูกเพิ่มเติมได้พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 105 ไร่
โดยใช้ไม้โกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ แสม พังกาหัวสุมดอกแดง
โรงแดง ถั่วขาวและต้นจาก เป็นต้น
|
|
ไม้โกงกางใบใหญ่ที่ตายเนื่องจากเพรียงเกาะตามลำต้น
รากเน่า และหนอนกินใบ |
|
|
หนอนชักใย
Lappet moths
วงศ์ Lasio
comdidae |
หิ่งห้อย
fire flies
วงศ์
Lampyridae |
สำหรับสวนป่าชายเลนทูลกระหม่อม เป็นส่วนป่าไม้โกงกางใบใหญ่
ซึ่งได้ทรงปลูกเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2537
จนกระทั่งวันที่ 9 พฤศจิกายน 2538
ซึ่งคณะนักวิจัยได้ไปสำรวจตรวจวัด
และพบว่าไม้โกงกางใบใหญ่ที่ได้ทรงปลูกทั้งหมด 202 ต้น
ตายเพียง 19 ต้น หรือคิดเป็น 9.4 %
ของไม้ที่ปลูกทั้งหมดเท่านั้น
ไม้โกงกางใบใหญ่ที่เหลือมีการเจริญเติบโตดี
สำหรับอัตราการเจริญเติบโตของไม้โกงกางใบใหญ่ที่ทรงปลูก
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2537 จนถึงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2538
รวมเวลา 1 ปี 3 เดือน พอสรุปได้ดังนี้
-
ความสูงของต้นเฉลี่ยประมาณ 85.6 เซนติเมตร
-
จำนวนกิ่งต่อต้นเฉลี่ยประมาณ 2 กิ่ง
-
จำนวนใบต่อต้นเฉลี่ยประมาณ 22 ใบ
-
จำนวนรากต่อต้นเฉลี่ยประมาณ 3 ราก
ต้นไม้โกงกางใบใหญ่ที่ทรงปลูกมีอัตราการตายต่ำมาก
ส่วนสาเหตุของการตายนั้นมีสาเหตุส่วนใหญ่จากรากเน่า
อันนี้เนื่องจากพื้นที่ปลูกเป็นพื้นที่น้ำขังและน้ำนิ่ง
จึงไม่มีอากาศถ่ายเทหมุนเวียน
โดยเฉพาะออกซิเจนมีปริมาณไม่เพียงพอเพื่อการหายใจ
และอีกสาเหตุหนึ่งสภาพพื้นที่น้ำขังทำให้เกิดก๊าซไข่เน่า
(H2S)
ปริมาณสูงทำให้รากเน่าได้
การแก้ไขควรจะทำให้น้ำมีระบบหมุนเวียน อย่าให้น้ำขังและนิ่ง
นอกจากนั้นมีแมลงและหนอนกินใบบ้าง
แต่ก็ไม่มากนักซึ่งจะต้องกำจัดโดยการเก็บและทำลายให้หมด
เพรียงซึ่งมีเป็นจำนวนมากที่เกาะตามลำต้นเป็นอีกสาเหตุหนึ่ง
ทำให้โกงกางใบใหญ่ตาย
สวนป่าชายเลนของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
นอกจากไม้โกงกางใบใหญ่ที่ทูลกระหม่อมทรงปลูกแล้ว
ยังมีไม้ชนิดอื่นที่ทาง ว่าที่ ร.ต.อารี สุวรรณจินดา
ได้ปลูกอีก คือ โกงกางใบเล็ก แสม พังกาหัวสุมดอกแดง
โปรงแดง และถั่วขาว ซึ่งในระยะเวลา 10 เดือน
การเจริญเติบโตสรุปได้ดังนี้
โกงกางใบเล็ก
-
ความสูงของต้นเฉลี่ยประมาณ 54.8 เซนติเมตร
-
จำนวนกิ่งต่อต้นเฉลี่ยประมาณ 6 กิ่ง
-
จำนวนใบต่อต้นเฉลี่ยประมาณ 47 ใบ
|
|
พวกหนอนแมลงที่พบบนใบ
ต้นโกงกางใบใหญ่ |
|
หนอนปลอก
bag-worm moths
วงศ์
Psychidae |
|
|
บุ้งปกขาว
Leaf-eating caterpillar
วงศ์ Lymantriidae |
|
|
แสม
-
ความสูงของต้นเฉลี่ยประมาณ 70.2 เซนติเมตร
-
จำนวนกิ่งต่อต้นเฉลี่ยประมาณ 6 กิ่ง
-
จำนวนใบต่อต้นเฉลี่ยประมาณ 164 ใบ พังกาหัวสุมดอกแดง
-
ความสูงของต้นเฉลี่ยประมาณ 39.1 เซนติเมตร
-
จำนวนกิ่งต่อต้นเฉลี่ยประมาณ 1 กิ่ง
-
จำนวนใบต่อต้นเฉลี่ยประมาณ 10 ใบ
|
โปรงแดง
-
ความสูงของต้นเฉลี่ยประมาร 34.7 เซนติเมตร
-
จำนวนกิ่งต่อต้นเฉลี่ยประมาณ 3 กิ่ง
-
จำนวนใบต่อต้นเฉลี่ยประมาณ 15 ใบ
ถั่วขาว
-
ความสูงของต้นเฉลี่ยประมาร 35.0 เซนติเมตร
-
จำนวนกิ่งต่อต้นเฉลี่ยประมาณ 2 กิ่ง
-
จำนวนใบต่อต้นเฉลี่ยประมาณ 25 ใบ
|
|
|
ไม้โกงกางใบเล็ก |
ไม้โกงกางใบเล็กและถั่วขาว |
|
|
ต้นจาก |
ไม้โปรงแดง |
การเจริญเติบโตของพรรณไม้ป่าชายเลนที่ปลูกบริเวณศูนย์การศึกษาพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
โดยเฉพาะสวนป่าชายเลนทูลกระหม่อม มีการเจริญเติบโตค่อนข้างดี
และอัตราการตายต่ำ แต่สิ่งที่จะต้องปรับปรุงคือ
จะต้องปรับปรุงให้มีการหมุนเวียนการขึ้นลงของน้ำ
เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของไม้ป่าชายเลนให้ดีขึ้น
และเป็นการลดอัตราการตายอีกด้วย
แทนที่จะเป็นพื้นที่น้ำขังและนิ่งดังสภาพที่เป็นอยู่ปัจจุบัน |