เดิมพื้นที่แห่งนี้มีสภาพป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้และสัตว์ป่านานาชนิด
ต่อมาราษฎรได้เข้ามาอาศัยทำกินบุกรุกแผ้วถางป่าประกอบอาชีพทางเกษตร
ในห้วงเวลาไม่ถึง 40 ปี ป่าไม้ได้ถูกทำลายโดยสิ้นเชิง
ทำให้ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลและมีปริมาณลดน้อยลง
จนมีลักษณะเป็นพื้นที่อับฝน
ดินขาดการบำรุงรักษาจนเกิดความไม่สมดุลทางธรรมชาติ
การพังทลายของดินค่อนข้างสูง
และจากการที่สภาพระบบนิเวศน์ป่าไม้บริเวณต้นน้ำถูกทำลาย
ทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่คลองทั้งสองมีปริมาณน้อยลง
ซึ่งส่งผลกระทบต่อป่าชายเลนในพื้นที่นี้ด้วย
นอกจากนี้สภาพป่าชายเลนยังเสื่อมโทรมลงจากสาเหตุหลายประการ เช่น
การสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ ขวางทางลำน้ำห้วยใหญ่
สิ่งโสโครกจากชุมชนไหลลงคลองบางกราน้อย น้ำทะเลพัดทรายปิดปากคลอง
ทำให้น้ำทะเลไหลเข้าออกได้ไม่สะดวก
ทำให้น้ำทะเลไหลเข้าออกได้ไม่สะดวก
ทำให้ลำคลองตื้นเขินและเสียความสมดุลของระบบนิเวศน์
พระราชดำริ
|
|
|
|
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เสด็จพระราชดำเนินทรงปลูกป่าโกงกางใบใหญ่
ที่บริเวณคลองบางกราใหญ่ เมื่อวันที่ 17
สิงหาคม 2537 |
เสด็จพระราชดำเนินลุยเลนปลูกโกงกางใบใหญ่
ที่บริเวณคลองบางกราน้อย |
|
|
|
|
ทรงปลูกต้นจากที่บริเวณคลองบางกราน้อย
|
เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการทดลองปลูกพันธุ์ไม้ป่าชายเลนในกะละมังพลาสติกในสภาพดิน
- น้ำที่แตกต่างกัน เมื่อวันที่ 28 มีนาคม
2538
|
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม
2537 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ได้พระราชทานพระราชดำริ กับ นายสุเมธ ตันติเวชกุล
เลขาธิการ กปร. ณ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
มีใจความโดยสรุปคือ " ให้จัดการพื้นที่ที่เหมาะสม
เพื่อทดลองปลูกและฟื้นฟูสภาพป่าชายเลน เพื่อให้นิเวศน์วิทยาป่าชายเลนกลับคืนสู่ธรรมชาติ
หลังจากนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินทรงปลูกป่าไม้ชายเลนชนิดต่างๆ
ที่บริเวณปากคลองบางกราน้อยและคลองบางกราใหญ่ เมื่อวันที่
17 สิงหาคม 2537 และได้พระราชทานพระราชดำริเพิ่มเติม
ให้ดำเนินการศึกษาหาวิธีที่จะดูแลรักษาให้ต้นไม้ชายเลนที่ปลูกนี้ให้อยู่รอด
และดำเนินการปลูกเพิ่มเติมต่อไป"
|
|
|
|
เจ้าชายอากิชิโน และพระชายาแห่งญี่ปุ่น
เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรและรับฟังการบรรยายสรุปการปลูกป่าชายเลนบริเวณสวนป่าชายเลนทูลกระหม่อม |
เจ้าชายอากิชิโนและพระชายา ทรงสนพระทัยการทดลองปลูกพันธุ์ไม้ป่าชายเลนในกะละมังพลาสติกในสภาพดิน-น้ำที่แตกต่างกัน
|
การปลูกป่าชยเลนคลองบางกราน้อย - คลองบางกราใหญ่
สภาพเดิมคลองบางกราน้อยมีป่าชายเลนขึ้นอยู่ประมาณ 22.08
ไร่ คลองบางกราใหญ่ประมาณ 11.88 ไร่ มีพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ
ขึ้นอยู่หนาแน่น
แต่ปัจจุบันมีสภาพเสื่อมโทรมลงจนเกือบหมดสภาพป่าธรรมชาติ
การดำเนินการปลูกป่าชายเลนบริเวณคลองบางกราน้อย -
บางกราใหญ่
ได้คำนึงถึงระบบนิเวสน์ของป่าชายเลนเพื่อให้พันธุ์ไม้ได้รับสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมตรงกับความต้องการและลักษณะประจำของพืชนั้น
โดยอาศัยเทคโนโลยีประกอบกับพื้นฐานด้านนิเวศวิทยา
ใช้กล้าไม้ที่มีอยู่ดิมตามธรราชาติ ได้แก่ แสม โกงกาง
พังกาหัวสุม โปรงแดง ถั่วขาว และไม้อื่นๆ
ที่ไม่มีในพื้นที่เดิม ได้แก่ จาก ตะบูน |