กรรณิการ์
ชื่อวิทยาศาสตร์ :
Nyctanthes arbor-tristis L.
วงศ์ :
OLEACEAE
ชื่อสามัญ
: Night blooming jasmine
ชื่ออื่น :
กณิการ์ , กรณิการ์
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก
สูงประมาณ 2 เมตร กิ่งเป็นสี่เหลี่ยม มีขนสาก ใบเดี่ยว
เรียงตรงข้าม รูปไข่ กว้าง 2-6 ซม. ยาว 3.5-10 ซม.
ปลายแหลมหรือยื่นเป็นติ่งแหลม โคนมน
ขอบเรียบหรือจักแหลมใกล้ๆ โคนใบ แผ่นใบหนาสากมือ
มีขนแข็งตามแผ่นใบและเส้นใบ ตามขอบใบอาจมีขนแข็งๆ
เส้นแขนงใบข้างละ 3-4 เส้น ปลายเส้นจรดกันก่อนถึงขอบใบ
ก้านใบยาว 0.5-1 ซม. ช่อดอกออกตามง่ามใบ ก้านช่อดอกยาว
1.2-2 ซม. มีใบประดับรูปคล้ายใบเล็กๆ 1
คู่ที่ก้านช่อดอก แต่ละช่อมี 3-7 ดอก กลิ่นหอม
บานตอนเย็นและจะร่วงในเช้าวันรุ่งขึ้น ไม่มีก้านดอก
แต่ละดอกมีใบประดับ 1 ใบ
ดอกตูมมีกลีบดอกเรียงซ้อนกันและบิดเป็นเกลียว
กลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อน
ติดกันเป็นหลอดรูปกรวยปลายตัดหรือหยักตื้นๆ 5 หยัก
ด้านนอกมีขน ด้านในเกลี้ยง
กลีบดอกโคนติดกันเป็นหลอดสีแสด ยาว 1.1-1.3 ซม.
ด้านนอกเกลี้ยง ด้านในมีขนยาวๆ สีขาวที่โคนหลอด
ปลายหลอดแยกเป็นกลีบสีขาว 5-8 กลีบ แต่ละกลีบยาว
0.9-1.1 ซม. โคนกลีบแคบ ปลายกลีบกว้างและเว้าลึก
เกสรเพศผู้ 2 อัน
ติดอยู่ภายในหลอดกลีบดอกตรงบริเวณปากหันด้านหน้าเข้าหากัน
ก้านชูอับเรณูเชื่อมเป็นเนื้อเดียวกับหลอดดอก
รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ กลม มี 2 ช่อง มีออวุลช่องละ 1
เม็ด ก้านเกสรเพศเมียมีอันเดียว
ยอดเกสรเพศเมียเป็นตุ่มมีขน ผลรูปไข่หรือกลม ค่อนข้างแบน
ปลายมีติ่งสั้นๆ
กรรณิการ์มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย
นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดเนเซีย
ประโยชน์ :
นอกจากปลูกประดับแล้ว
ในด้านสมุนไพร ดอกมีสาร nyctanthin
ให้สีเหลืองอมแสด ใช้ทำสีย้อมผ้า
ในอินโดเนเซีย มาเลเซีย
และอินเดียใช้ดอกเป็นยาขับประจำเดือน
ในอินเดียใช้ใบซึ่งมีรสขมเป็นยาแก้ไข้ และใช้ขับพยาธิ
(Burkill,1966)
ในประเทศไทยใช้ใบสดตำแล้วคั้นเอาแต่น้ำ
ใช้เป็นยาขมเจริญอาหาร ถ้ากินมากทำให้ระบาย (พเยาว์,2526)
ที่มาของข้อมูล :
อนุกรมวิธานพืชอักษร ก.
ฉบับราชบัณฑิตสถาน เรียบเรียงเรื่องโดย รศ.บุศบรรณ ณ
สงขล |