ไคร้ย้อย
 

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Elaeocarpus grandiflorus   Sm.
วงศ์ :  ELAEOCARPACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่น กาบพร้าว (นราธิวาส) ไคร้ย้อย  สารภีน้ำ (เชียงใหม่) จิก ดอกปีใหม่ (กาญจนบุรี) แต้วน้ำ (บุรีรัมภ์) ปูมปา (เลย) คล้ายสองหู ผีหน่าย (สุราษฎร์ธานี) มุ่นน้ำ (เพชรบุรี)  อะโน (ปัตตานี)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์  ไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูง 5-30 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดแผ่กว้างพุ่มใบทึบ  แตกกิ่งต่ำ  กิ่งอ่อนเกลี้ยง เปลือกเรียบหรือหยาบเล็กน้อย สีน้ำตาลปนเทา ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ ใบรูปรีหรือรูปใบหอก กว้าง 1.5-5.5 ซม. ยาว 7-19 ซม.ปลายใบแหลมทู่ โคนใบสอบแคบ ผิวใบด้านบนเกลี้ยง ด้านล่างมีขนประปราย ในช่วงที่เป็นใบอ่อน  ใบหนา เส้นแขนงใบข้างละ 6-19 เส้น เส้นใบย่อยเห็นไม่ชัด ก้านใบยาว 0.5-4 ซม. ดอก สีขาว มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะ ห้อยลง ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง  ยาว 6-10 ซม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปใบหอกสีขาวอมเหลือง กลีบดอก 5 กลีบ รูปไข่กลับมีขนประปรายทั้งสองด้าน  โคนกลีบดอกด้านมีกลุ่มขนเรียงตัวเป็นสองแถว  ปลายกลีบเป็นริ้วละเอียด รังไข่ป้อมมีขนสั้นคลุมแน่น ดอกบานเต็มที่กว้าง 2-2.5 ซม. ผล ผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียว รูปทรงกระสวยหรือรูปรี  กว้าง 1.5-2 ซม. ยาว 3-4 ซม. ผิวผลบางเรียบ เกลี้ยง มีเมล็ดรูปกระสวย ก้านผลยาว 2-6 ซม.
          กระจายพันธุ์อยู่ตามป่าดิบ ริมฝั่งน้ำที่สูงจากระดับน้ำทะเล 50-800 เมตร  ระยะออกดอกประมาณ เดือน มกราคม-เมษายน มีผลประมาณ เดือนมีนาคม-พฤษภาคม ดอกมีกลิ่นหอม
ประโยชน์
:  ปลูกเป็นไม้กันดินพังทลายตามชายน้ำ ผลเป็นอาหารของนกได้