แคฝอย
 

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Stereospermum fimbriatum  (Wall. ex  G.Don) A.DC.
วงศ์ : BIGNONIACEAE

ชื่อสามัญ : Snake Tree 
ชื่ออื่น แคทราย (เชียงใหม่)  แคฝอย (กระบี่,ภาคเหนือ,ปัตตานี) แคยอดดำ (สุราษฎร์ธานี) จีจา (มลายู-นราธิวาส)  จีจา (มลายู-ปัตตานี)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์  ไม้ผลัดใบขนาดกลางถึงใหญ่ สูง 15-25 เมตร ลำต้นเปลา ตรง เปลือกเรียบสีน้ำตาลแดง กิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนซึ่งมีต่อมน้ำมัน (grandular) อยู่ตรงปลายปกคลุมหนาแน่น ใบ รูปหอกหรือไข่แกมรูปหอก หรือบรรทัดแกมรูปหอก ขนาด 6-13 x 2.5-5.3 ซม. ปลายใบยาวเรียว ฐานใบมนหรือหยักเว้าเล็กน้อย ขอบใบเรียบ ใบอ่อนมีขนสีน้ำตาลเหลืองคลุมหนาแน่นทั้งสองด้าน และขนด้านหลังใบจะหลุดร่วงไปบ้างเมื่อใบมีอายุมากขึ้น ช่อดอก มีขนสีน้ำตาลเหลืองคลุมหนาแน่น กลีบรองดอกเป็นรูปท่อแคบๆ หรือรูปทรงกระบอก ยาว 1-1.7 ซม. ตรงส่วนปลายสุดยอดแยกออกเป็น 5 แฉก (lobes) สั้นๆ  กลีบดอกเป็นรูปแจกัน ยาว 4-5.5 ซม. ขอบของกลีบดอกจักถี่ไม่เป็นระเบียบ (fimbriate) เกสรผู้เรียบ เกลี้ยง รังไข่มีขนคลุมหนาแน่น ฝัก ทรงกระบอก ยาวและเรียว มักจะบิดงอเมื่อฝักแก่ ขนาดยาถึง 60 ซม. และขนาดวัดผ่าศูนย์กลางประมาณ 3-10 มม. มีสันนูนเล็กน้อยตามส่วนยาวของฝัก 4 สัน มีขนปกคลุมประปราย เมล็ด มีขนาด (รวมททั้งปีก) 1.8-2.1 x 0.8-1.9  ซม. ระยะการเป็นดอกผล เริ่มผลิช่อดอกตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม เป็นต้นไป จนถึงเดือนมีนาคม และจะติดฝักประมาณเดือนเมษายน-มิถุนายน นิเวศวิทยา ชอบขึ้นในป่าดิบชื้น ที่ราบทางภาคใต้ และป่าเบญจพรรณทางภาคเหนือ
ประโยชน์
: เนื้อไม้ค่อนข้างแข็ง เหมาะใช้ทำฟืน ฝากระดาน ด้ามเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ