สะแกแสง
ชื่อวิทยาศาสตร์
: Cananga latifolia
(Hook.f. & Thomson) Finet & Gagnep.
วงศ์ :
Annonaceae
ชื่อสามัญ
:
ชื่ออื่น : เก้าโป้ง,
งุ้มสะบันงา (เชียงใหม่); แกนแซง (อุตรดิตถ์); สะแกแสง,
แคแสง (จันทบุรี); แตงแสง (ชัยภูมิ, ขอนแก่น); เนา (ภาคเหนือ);
เผิง (เพชรบูรณ์); ราบ (สุราษฎร์ธานี); หำอาว, หำฮอก (นครราชสีมา)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ไม้ต้นขนาดกลาง สูง 10-20 เมตร ผลัดใบในฤดูแล้ง
เรือนยอดโปร่ง กิ่งอ่อนมีขนหนาแน่น
เปลือกลำต้นสีน้ำตาลอมเทา
ตามกิ่งมีรอยแผลของก้านใบที่หลุดร่วงชัดเจน ใบ
รูปไข่ มนป้อม กว้าง 7-12 ซม. ยาว 10-18 ซม.
โคนใบมนหรือหยักเว้า ปลายใบมนหรือเป็นติ่งสั้นๆ
ใบด้านบนมีสีเข้มกว่าด้านล่าง
เส้นกลางใบด้านบนเป็นร่องและด่านล่างเป็นสัน
มีขนหนาแน่นทั้งสองด้าน เส้นแขนงใบมี 8-12 คู่
ปลายเส้นไม่จรดกัน ก้านใบยาว 1 ซม. ดอก เดี่ยว
หรือเป็นกระจุกใต้โคนก้านใบ ดอกห้อยลง ดอกอ่อนสีเขียว
เมื่อบานเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมเขียว ก้านดอกยาว 2
ซม.มีใบรูปประดับรูปรี กว้าง 7 มม. ยาว 1.5 ซม.
ติดอยู่ที่โคนก้านดอก กลีบเลี้ยงรูปสามเหลี่ยม
กว้างและยาว 1 ซม. ปลายกลีบกระดกขึ้น กลีบดอกรูปหอก
โคนกลีบคอดเรียงเป็น 2 ชั้น แต่ละกลีบมีขนาดเท่ากัน
กว้าง 1.5 ซม. ยาว 4 ซม. และมีขนหนาแน่นทั้งสองด้าน ผล
กลุ่ม ก้านช่อผลยาว 3 ซม. มีผลย่อย 20-25 ผล ผลกลมรี
กว่าง 1-1.3 ซม. ยาว 1.5-2 ซม. ผลอ่อนสีเขียว
ผลแก่สีดำ แต่ละผลมีเมล็ดจำนวนมาก
ออกดอกประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคม แลแก่หลังจากดอกบาน 4
เดือน มักพบขึ้นในป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณทั่วประเทศ
ที่ระดับความสูง 50-300 เมตร
ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด
ประโยชน์
:
เนื้อไม้ สีเทา
เสี้ยนตรง อ่อน เนื้อหยาบปานกลาง
เลื่อยผ่าไสกบตบแต่งง่าย นิยมทำหีบ รองเท้าไม้
และแบบเทคอนกรีต ทางด้านสมุนไพร รากและเนื้อไม้
ซึ่งมีรสเบื่อเมาใช้แก้พิษไข้เซื่องซึมและพิษกาฬทั้งปวง |