โมก
ชื่อวิทยาศาสตร์
: Wrightia
pubescens R.br.
วงศ์ :
Apocynaceae
ชื่อพ้อง :
Wrightia tomentosa var. cochinchinensis
Pierre ex Pitard
ชื่ออื่น :
โมก, มูก (ภาคกลาง); มูกเกื้อ (จันทบุรี); โมกมัน
(ชลบุรี, กาญจนบุรี, นครราชสีมา)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางผลัดใบ สูง
8-20 เมตร ลำต้นเปลาตรง เปลือกสีเทาอ่อนถึงน้ำตาล
ลักษณะคล้ายไม้ก๊อก
ถ้าตัดทุกส่วนที่ยังสดอยู่จะมีน้ำยางสีขาวเหนียวๆ
ซึมออกมา เรือนยอดรูปทรงกลม ทึบ
กิ่งและยอดอ่อนมีขนนุ่มหนาแน่น ใบ เป็นชนิดใบเดี่ยว
ติดตรงข้ามเป็นคู่ๆ ทรงใบรูปรีๆ รูปไข่และไข่กลับ
กว้าง 3-8 ซม. ยาว 7-18 ซม. โคนใบสอบ ปลายใบเรียวแหลม
เนื้อใบบาง มีขนนุ่มทั้งสองด้าน
บางทีด้านหลังใบของใบแก่เกลี้ยงหรือเกือบเกลี้ยง
เส้นแขนงใบ มี 8-15 คู่ เส้นใบย่อยเห็นไม่ค่อยชัด ดอก
สีขาวอมเหลือง บิดเวียนเป็นรูปกังหัน
ออกรวมกันเป็นช่อแบบเป็นพวงกระจายตามปลายกิ่ง ช่อยาว
4-6 ซม. มีหลายดอก ดอกเมื่อเริ่มบานใหม่ๆ
ภายนอกสีเขียวอ่อน ส่วนด้านในสีขาวอมเหลือง
เมื่อดอกใกล้โรยจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงแกมเหลืองหรือม่วงแดง
ดอกบานเต็มที่กว้างประมาณ 2.5 ซม.
กลีบฐานดอกเชื่อมติดกันเป็นกรวยที่โคนกลีบ
ปลายแยกเป็นแฉกมนๆ 5 แฉก มีขนแน่นทั้งสองด้าน
โคนกลีบดอกจะเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาวถึง 10 มม.
ปลายแยกเป็นกลีบรูปขอบขนาน 5 กลีบ ในดอกตูมกลีบจะบิดเป็ฯเกลียวตามเข็มนาฬิกา
เมื่อดอกบานกลีบจะบิดเวียนกันเป็นรูปกังหัน
แต่ละกลีบยาว 8-16 มม. และมีระยางพิเศษสีส้มคล้ำจนถึงสีม่วงอยู่ถัดจากชั้นกลีบดอกเข้าไป
ระยางนี้สั้นกว่าเกสรตัวผู้ เกสรตัวผู้ มี 5 อัน
ติดอยู่ใกล้ๆ ปากหลอดกลีบดอกด้านใน ก้านเกสรสั้น
ส่วนอับเรณูสีขาว รังไข่ รูปรีๆ ภายในแบ่งเป็น 2 ช่อง
แต่ละช่องมีไข่อ่อนมาก ผล เป็นฝักรูปทรงกระบอกยาว
17-35 ซม. โตวัดผ่าศูนย์กลาง 8-13 ซม.
มีร่องระหว่างกลางตามยาวฝัก ทำให้ฝักดูเป็นสองพู
เมื่อฝักแก่จัดจะแตกอ้าออกตามแนวร่องนี้
ผิวฝักแข็งขรุขระไปด้วยตุ่มช่องระบายอากาศ เมล็ด
รูปรีๆ คล้ายข้าวเปลือก
ปลายข้างหนึ่งจะมีขนสีขาวเป็นพู่
สามารถปลิวไปตามลมได้ไกลๆ
ออกดอกระหว่างเดือน มกราคม
- มีนาคม ผลแก่ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม
บางทีทั้งดอกและฝักอยู่ในช่วงเดียวกัน
ประโยชน์ :
ใช้ไม้ทำตัวหมากรุก เครื่องเขียน
ครอบลูกคิด ทำจะเข้ ซอด้วง ซออู้ ทำพานท้ายและรางปืน
ด้านสมุนไพร ตำรายาแผนโบราณ เปลือก เป็นยาเจริญอาหาร
ทำให้จำเดือนปกติ แก้พิษสัตว์กัดต่อย แก้โรคไต
ยางจากต้น แก้บิดมูกเลือด ใบ ขับน้ำเหลือง ดอก
เป็นยาระบาย เนื้อไม้ ขับเลือด ราก รักษาพิษงู |