Home    กลับไปหน้าแรก


กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

จัดงาน ๙๐ ปี วังวรดิศ รำลึกถึงสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ประธานในงาน “๙๐ ปี วังวรดิศ รำลึกถึงสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ” ในวันอาทิตย์ที่ ๓๑ มีนาคม นี้ เวลา ๑๘.๓๐ น. ซึ่งจัดขึ้นโดยพิพิธภัณฑ์วังวรดิศและหอสมุดสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ณ วังวรดิศ
ถนนหลานหลวง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ซึ่งในงานจะมีการแสดงดนตรีไทย โดยมโหรีวงใหญ่ กรมศิลปากร ชุด “เพลงไทยเดิม ซึ่งสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงให้มีการบันทึกเป็นโน้ตสากลขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย” อันนับเป็นมรดกล้ำค่ายิ่งทางศิลปการดนตรีของแผ่นดิน วังวรดิศเป็นวังที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ตราบจนสิ้นพระชนม์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๖ ปัจจุบันทายาทสืบตระกูลเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์สถานดำรงราชานุภาพ โดยไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ ในการเข้าชม พระองค์ทรงได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้เป็นองค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย องค์ปฐมผู้บัญชาการทหารบก องค์ผู้อำนวยการก่อตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนนายร้อยทหารบก โรงเรียนนายร้อยตำรวจ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงพยาบาลศิริราช ฯลฯ และองค์การยูเนสโก้แห่งสหประชาชาติได้ถวายสดุดีให้สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเป็นคนไทยคนแรกที่เป็น “บุคคลสำคัญของโลก”

สำนักข่าวไทย

พระราชประวัติ

          สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเป็นพระโอรส พระองค์ที่ ๕๗ ในสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูตรแต่เจ้าจอมมารดาชุม พระสนมเอก เมื่อวันเสาร์ เดือน ๗ แรม ๙ ค่ำ ปีจอ ตรงกับวันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๐๕ สมเด็จพระบรมชนกนาถ พระราชทานนาม พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร สมเด็จพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเริ่มเข้ารับราชกาล เป็นนักเรียนนายร้อยทหารบก กรมนายร้อย เมื่อปี พ.ศ.๒๔๑๘ ได้รับการสถาปนาเป็น กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ เมื่อ วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๒ ในรัชกาลที่ ๕ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงรับราชการในตำแหน่ง นายพลโทราชองค์รักษ์ และเป็นอธิบดีกระทรวงธรรมาธิการ เป็นเสนาบดีกระมรวงมหาดไทย เป็นราชฑูตพิเศษ เสด็จไปยุโรป ๑ ครั้ง ครั้นภายหลังทรงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ เลื่อนขึ้นเป็นกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อ วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๔ ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้า ฯ เลื่อนเป็น สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๒ เป็นอภิรัฐมนตรี และเป็นนายกราชบัณฑิตยสภา เมื่อปี ขาล พ.ศ.๒๔๖๙ ผลงานด้านการปกครองที่สำคัญที่สุด ในพระชนม์ชีพของพระองค์คือ การจัดการปกครองแบบใหม่ ตั้งมณฑล ๑๘ มณฑล จังหวัด ๗๑ จังหวัด อันเป็นรากฐานสำคัญในการปกครองและบริหารท้องที่ในปัจจุบัน หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ พระองค์จึงละกิจการทั้งปวงเสด็จไปประทับที่หัวหิน ตามคำแนะนำของแพทย์ และต่อมาอีก ๑ ปี ก็เสด็จไป ประทับที่ ปีนัง จนกระทั่งเดือน ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ ก็เสด็จกลับกรุงเทพ ฯ และสิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๖ ด้วยพระหทัยหยุดทำงาน รวมพระชนมายุได้ ๘๑ พรรษา